สิ่งแรกที่ต้องทำคือตรวจสอบ ประวัติการโทร เพื่อดูว่าใครติดต่อพวกเขา การอ่านบันทึกการโทรจะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถระบุผู้ติดต่อที่พวกเขาไม่รู้จักได้อย่างง่ายดาย การตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์เป็นประจำจะช่วยให้คุณระบุรูปแบบที่น่าสงสัยได้ก่อนที่เรื่องจะบานปลาย หากพบสายที่น่าสงสัย คุณควรลองสอบถามพวกเขาเพื่อขอคำอธิบายว่าใครอาจเป็นผู้โทร
จากการหลอกลวงที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้เด็กๆ กลายเป็นเป้าหมายที่ง่ายสำหรับมิจฉาชีพ กิจกรรมเหล่านี้มักนำไปสู่การแสวงหาผลประโยชน์ทางการเงิน การสูญเสียข้อมูล และความเครียดทางอารมณ์ ดังนั้น ผู้ปกครองจึงจำเป็นต้องตื่นตัวและระมัดระวังเด็กๆ เกี่ยวกับการเลือกหรือการตอบกลับหมายเลข ไม่ทราบ นอกจากนี้ยังหมายความว่าผู้ปกครองจำเป็นต้องมีเครื่องมือควบคุมโดยผู้ปกครองที่เชื่อถือได้ ซึ่งสามารถ ช่วยเหลือ พวกเขาระบุหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวและดำเนินการเปลี่ยนแปลงด้านความปลอดภัยได้
แอปหนึ่งที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านความปลอดภัยดิจิทัลของเด็กๆ คือ FlashGet Kidsแอปนี้ให้บริการ การสะท้อนหน้าจอ ฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณดูข้อมูลผ่านอุปกรณ์ของลูกๆ ได้ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณตรวจสอบประวัติการโทรหรือข้อความได้อย่างง่ายดาย เพื่อดูว่าพวกเขากำลังคุยกับใคร ซึ่งหมายความว่าคุณไม่เพียงแต่จะติดตามดูแลลูกๆ ได้เท่านั้น แต่ยังรับประกันความปลอดภัยทางดิจิทัลของพวกเขาได้อีกด้วย
วัยรุ่นส่วนใหญ่ไม่มีการป้องกันที่เพียงพอต่อการหลอกลวงทั้งในด้านเทคโนโลยีและคำแนะนำ สอนลูกๆ เกี่ยวกับการโทรหลอกลวงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น แนะนำให้พวกเขาไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลกับคนแปลกหน้า
เตือนพวกเขาว่าไม่มีบริษัทที่ถูกกฎหมายใดที่จะโทรมากดดันพวกเขาทางโทรศัพท์ การพูดคุยบ่อยๆ ทำให้วัยรุ่นรู้สึกมั่นใจในการรับมือกับสายโทรศัพท์ที่น่าสงสัย ซึ่งจะทำให้การตัดสินใจในอนาคตมีความปลอดภัยมากขึ้น
การเรียนรู้วิธีรับมือกับสายโทรหลอกลวงจะช่วยปกป้องคุณจากการถูกเอาเปรียบได้เป็นอย่างดี ควรระมัดระวังหมายเลขที่ขอข้อมูลลับและมักต้องการข้อมูลอย่างเร่งด่วน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตรวจสอบหมายเลขเหล่านั้นแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นของจริงหรือเป็นสายหลอกลวง
เพื่อปกป้องเด็กๆ จากการโทรหลอกลวงให้มากยิ่งขึ้น คุณควรพิจารณาใช้ แอพตรวจสอบ เช่น FlashGet Kids ด้วยแอปเหล่านี้ คุณสามารถตรวจสอบได้อย่างง่ายดายว่าพวกเขากำลังสื่อสารกับใครผ่านการโทรหรือข้อความ