FlashGet Kids FlashGet Kids

ความหมายของคำว่า 'Sus' ในภาษาแสลงของคนรุ่น Gen Z: ต้นกำเนิด การใช้ และตัวอย่าง

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา คำแสลง ออนไลน์ ของเยาวชนมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วกว่าที่เคย สำหรับผู้ปกครองหลายคน การพยายามตามให้ทันคำศัพท์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของคนรุ่น Gen Z อาจรู้สึกเหมือนกับการเรียนรู้ภาษาใหม่ในชั่วข้ามคืน แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok, YouTube และชุมชนเกมได้เร่ง ให้คะแนน d ว่าคำต่างๆ แพร่กระจายและเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร หนึ่งในคำแสลงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด (และมักเข้าใจผิด) ในปัจจุบันคือ "sus" คุณอาจเคยเห็นในมีมหรือได้ยินวัยรุ่นของคุณพูดว่า "นั่นมัน sus นะ" แต่ความหมายของคำแสลงของ Sus คืออะไร? คู่มือนี้จะอธิบายวิวัฒนาการและวิธีใช้ รวมถึงสิ่งที่ผู้ปกครองควรรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน ช่วยเหลือ คุณเชื่อมช่องว่างระหว่างวัยผ่านการทำความเข้าใจวัฒนธรรมดิจิทัลสมัยใหม่

Sus ในภาษาแสลงแปลว่าอะไร?

จริงๆ แล้ว Sus เป็นคำแสลงที่ย่อมาจากคำว่า “น่าสงสัย” หรือ “น่าสงสัย” ที่คุณมักจะได้ยินหรือเห็นในข้อความ มีม แชทเกม และอื่นๆ สื่อสังคม โพสต์ ตามคำอธิบายศัพท์แสลงของ sus พจนานุกรมเมือง (เว็บไซต์แสลง ออนไลน์ ภาษาอังกฤษ) ผู้คนมักใช้เพื่อสอบถามบุคคลหรือสิ่งของที่ดูน่าสงสัยหรือไม่น่าเชื่อถือ

บริบทของการใช้คำแสลง "sus" ส่วนใหญ่มักเป็นคำที่ไม่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เดิมที "Sus" ย่อมาจากคำว่า "suspicious" แต่ต่อมาได้พัฒนาให้มีน้ำเสียงที่สนุกสนานและหยอกล้อมากขึ้น ปัจจุบันคำนี้ไม่ได้ใช้เพียงแค่เรียกพฤติกรรมที่น่าสงสัยเท่านั้น แต่ยังใช้เพื่อล้อเล่นกับเพื่อนอีกด้วย

จากศัพท์แสงการเล่นเกมไปจนถึงการสนทนา ออนไลน์ — ถอดรหัส 'sus' แล้ว

ค้นหาว่าเด็กมีกิจกรรมที่น่าสงสัยอะไรบ้างผ่านการพูดคุยอย่างเปิดเผยและการติดตามของผู้ปกครอง

ลองฟรี

ต้นกำเนิด 'ซัส'

เป็นที่น่าสังเกตว่า sus มีรากฐานมาจากศัพท์แสงของตำรวจในช่วงทศวรรษ 1920–1930 พจนานุกรม Green & Partridge ได้ บันทึกเสียง ถึง sus ในบริบททางการ ตัวอย่างเช่น เดิมที sus ถูกเรียกว่า “ผู้ต้องสงสัย” หรือ “ความสงสัย” ภายในกรอบของการบังคับใช้กฎหมายหรือการสืบสวนคดีอาญา

เมื่อเวลาผ่านไป คำว่า sus ได้ลดความเข้มงวดทางกฎหมายลง และเริ่มถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ในที่สุด sus ก็แพร่หลายไปในกระแสหลักทางอินเทอร์เน็ต ความหมายและการใช้งานของ sus เริ่มมีความสนุกสนานและเข้ากับสังคมมากขึ้น

ความนิยมของ 'ซัส' ในเกมและโซเชียลมีเดีย

บทบาทสำคัญที่สุดที่ทำให้ศัพท์แสลงนี้ได้รับความนิยมคือเกม ออนไลน์ หลายผู้เล่น Among Us ในปี 2018 เกมนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในช่วงปี 2020 โดยผู้เล่นจะต้องร่วมมือกันทำภารกิจต่างๆ เช่น ซ่อมสายไฟและทำความสะอาด หนึ่งในภารกิจที่สำคัญที่สุดคือการระบุตัวผู้แอบอ้าง

ดังนั้น เมื่อผู้เล่นมีพฤติกรรมน่าสงสัย ลูกเรือจะเรียกพวกเขาว่า "sus" ซึ่งทำให้คำนี้กลายเป็นหัวใจสำคัญของปฏิสัมพันธ์ทางสังคมในเกม

ตั้งแต่นั้นมาคำว่า 'sus' ก็แพร่กระจายอย่างรวดเร็วบน TikTok ยูทูบ, Instagram และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ ปัจจุบันมีการใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่ออธิบายสิ่งที่ดูน่าขันหรือประชดประชัน ไม่ว่าจะเป็นในเกม มีม หรือบทสนทนาทั่วไป

วิธีใช้คำแสลง 'Sus' ในแชท (ตัวอย่าง)

โปรดทราบว่าความหมายของคำว่า 'sus' จะแตกต่างกันไปตามบริบท ก่อนที่จะคิดหรือโต้ตอบใดๆ คุณต้องพิจารณาให้ดีว่าคำพูดนั้นกำลังจริงจัง เล่นสนุก หรือประชดประชัน

“Sus” ในแชทเกม (Beyond Among Us)

คุณจะเห็นมันในเกมหลายผู้เล่นอื่น ๆ เช่น ฟอร์ทไนท์, Roblox หรือ Call of Duty ตรงนี้ผู้เล่นยังใช้คำว่า "sus" เพื่อชี้ให้เห็นเพื่อนร่วมทีมหรือคู่ต่อสู้ที่ทำตัวน่าสงสัยอีกด้วย

ตัวอย่าง:

  • “โอ้ พระเจ้า เขาซ่อนตัวอยู่ใกล้กับของที่ปล้นมา... น่าสงสัยจริงๆ นะเพื่อน”
  • ”คุณ แจ้งให้ทราบ ไหมว่าเธอติดตามฉันมาตลอด ไม่เป็นไร”
  • “เขาไม่ได้ช่วยชีวิตใครอีกเลย… พฤติกรรมน่าสงสัยแบบนั้น”

“ซัส” ในโซเชียลมีเดีย

ในทำนองเดียวกัน บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย คำว่า "sus" ถูกใช้อย่างแพร่หลายในมีม คอมเมนต์ และคำบรรยายภาพ โดยส่วนใหญ่มักใช้ในเชิงตลกขบขันเพื่อชี้ให้เห็นสิ่งที่ดูน่าสงสัย น่าสงสัย หรือประชดประชัน แต่บางครั้งการเรียกใครสักคนว่า "sus" อาจทำให้อีกฝ่ายรู้สึกขุ่นเคืองหรือก่อให้เกิดการโต้เถียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขามองว่ามันเป็นเรื่องจริงจังมากกว่าจะพูดเล่นๆ

ตัวอย่าง

  • นอกจากนี้ บางคนอาจโพสต์วิดีโอ TikTok สั้นๆ ที่แสดงปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างดราม่าต่อเรื่องราวน่าสงสัยของเพื่อน ดังนั้นจึงใส่คำบรรยายภาพ เช่น "เมื่อเขาบอกว่าเขาไม่ได้นอกใจ... สงสัย"

“ซัส” ในการส่งข้อความแบบสบายๆ

เพื่อน ๆ ก็สามารถใช้คำแสลงนี้เล่น ๆ เพื่อเรียกพฤติกรรมแปลก ๆ หรือพฤติกรรมที่น่าสงสัยได้ ลองมาดูตัวอย่างที่แสดงถึงความหมายของคำว่า sus ในแชทกัน!

  • รู้ไหม เมื่อวานฉันเจอแซม แต่วันนี้เขาดูแปลกๆ นะ คิดว่าเขาแอบชอบฉันรึเปล่า
  • “เอ่อ! จริงๆ นะ ตอนที่เธอซ่อนโทรศัพท์เร็วขนาดนี้มันน่าสงสัยมากเลย บอกความจริงสิ เธอกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่รึเปล่า”

เนื่องจากเด็กและวัยรุ่นส่วนใหญ่มักใช้คำแสลงเพื่อให้เข้ากับวัฒนธรรม ออนไลน์ ผู้ปกครองจึงต้องเข้าใจคำศัพท์เหล่านี้ เพราะการมีความรู้เกี่ยวกับคำแสลงไม่ได้หมายความว่าคุณกำลังส่งเสริมการใช้คำเหล่านั้น แต่ที่จริงแล้ว มันจะทำให้ลูกๆ รู้สึกว่าคุณสนใจโลกดิจิทัลของพวกเขา และสร้างความไว้วางใจ

สิ่งนี้จึงสร้างพื้นที่ที่สะดวกสำหรับการสนทนา ส่งผลให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะเปิดใจเกี่ยวกับสิ่งที่เห็น ได้ยิน หรือพบเจอ ออนไลน์ มากขึ้น ช่วยให้คุณสามารถแนะนำและสนับสนุนความปลอดภัยทางดิจิทัลของพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คำว่า "ซัส" เป็นคำหยาบไหม? สิ่งที่พ่อแม่ควรรู้

ทีนี้ ถ้าเราพูดถึงความเหมาะสมของคำว่า "sus" สำหรับเด็กๆ อย่าลืมว่าตัวคำนั้นเป็นกลางและไม่มีความหมายเชิงลบ อย่างไรก็ตาม บริบทที่ใช้อาจบ่งชี้ถึงการสัมผัสกับหัวข้อที่ละเอียดอ่อนหรือกิจกรรมที่น่าสงสัย มีโอกาสที่ลูกของคุณอาจใช้คำว่า sus หากพบเห็นบางสิ่ง ออนไลน์ ที่ดูแปลก เสี่ยง หรือไม่สบายใจ ในกรณีเช่นนี้ อาจเป็นสัญญาณเตือน

  • อาจเป็นบุคคล ไม่ทราบ DM พวกเขาและขอ รายละเอียด ส่วนตัว
  • นอกจากนี้ บุคคลที่ ออนไลน์ อาจเป็นเพื่อนของพวกเขาที่ขอให้ทำบางสิ่งที่รู้สึกแปลกหรือผิดปกติ
  • พวกเขา แจ้งให้ทราบ พฤติกรรมที่น่าสงสัยในการแชทหรือชุมชน ออนไลน์

นั่นเป็นเหตุผลที่พ่อแม่ควรหมั่นติดตามข่าวสารเกี่ยวกับภาษาสมัยใหม่นี้อยู่เสมอ เพื่อ ช่วยเหลือ ขจัดช่องว่างระหว่างวัย เคล็ดลับบางประการที่อาจได้ผลในการพูดคุยกับเด็กๆ เกี่ยวกับการใช้คำแสลง

เคล็ดลับปฏิบัติในการพูดคำแสลงกับลูกๆ ของคุณ

  • จงมีความอยากรู้อยากเห็น ไม่ใช่ตัดสินผู้อื่น: สร้างความไว้วางใจและส่งเสริมการสื่อสารแบบเปิดกว้างด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีการ แทนที่จะเข้มงวดหรือวิพากษ์วิจารณ์ลูกมากเกินไป ลองพูดคุยและแบ่งปันเทรนด์และประสบการณ์ดิจิทัลกับลูก ๆ โดยไม่ตัดสินหรือเร่งรีบ เน้นที่บริบท ไม่ใช่แค่คำพูด คำว่า "sus" อาจฟังดูแปลก แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะไม่ก่อให้เกิดอันตราย
  • กำหนดขอบเขตและกฎเกณฑ์สำหรับการโต้ตอบ ออนไลน์ : ร่วมมือกับลูก ๆ ในการกำหนดกฎการใช้งานโซเชียลมีเดีย และควรแนะนำลูก ๆ ว่าทำไมพฤติกรรมหรือเทรนด์ ออนไลน์ บางอย่างจึงอาจมีความเสี่ยง โดยไม่ทำให้พวกเขารู้สึกละอายใจ ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือการส่งเสริมให้พวกเขามีส่วนร่วมในกิจกรรมออฟไลน์และงานอดิเรกส่วนตัวมากขึ้น แทนที่จะแค่เลื่อนหน้าจอหรือติดตามเทรนด์
  • เรียนรู้คำแสลงด้วยกัน: การนั่งเล่นกับลูกๆ และสำรวจโซเชียลมีเดียหรือเกมต่างๆ ด้วยกันก็ถือเป็นกิจกรรมที่ดี วิธีนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจมากขึ้นว่าลูกๆ มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ออนไลน์ อย่างไร และคำสแลงที่พวกเขาใช้เป็นอย่างไร
  • การส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ: ปัญหาใหญ่ที่สุดของวัยรุ่นยุคนี้คือพวกเขาทำตามกระแสนิยมเพียงเพื่อให้เข้ากับสังคมโดยที่ไม่ค่อยตระหนักรู้ แนะนำให้เด็กๆ ตระหนักถึงกลไกและความจริงเบื้องหลังกระแสโซเชียลมีเดียอย่างมีสติ
  • ใช้เครื่องมือควบคุมโดยผู้ปกครองเพื่อความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น: เพื่อ ช่วยเหลือ คุณในเรื่องนี้อย่างน่าเชื่อถือ FlashGet Kids แอปควบคุมโดยผู้ปกครองนั้นคุ้มค่าที่จะลอง มันสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเสมือนสำหรับผู้ปกครอง คอยอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่อยู่ของลูก การใช้งานอุปกรณ์ และกิจกรรม ออนไลน์ ต่างๆ ของลูกๆ คุณสามารถตั้งค่า เวลาอยู่หน้าจอ จำกัดหรือบล็อกแอปที่ไม่ต้องการบางแอปสำหรับลูกของคุณ แอปนี้ยังให้คุณตั้งคำสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคำแสลงได้ด้วย ดังนั้น หากเด็กๆ พยายามใช้คำเหล่านี้ แอพส่งข้อความจากนั้นคุณจะได้รับ การแจ้งเตือน ทันที

บทสรุป

การเข้าใจศัพท์แสลงอย่างเช่น "sus" ไม่ได้หมายความถึงการพยายามให้ดูเท่หรือเพียงแค่ติดตามเทรนด์เท่านั้น แต่หมายถึงการเชื่อมต่อกับโลกดิจิทัลของลูกคุณ

สรุปแล้ว คำว่า "sus" ในภาษาสแลงนั้นไม่เป็นอันตราย เพราะความหมายนั้นแปลได้ง่ายๆ ว่า "น่าสงสัย" หรือ "น่าสงสัย" ซึ่งหมายถึงการชี้ให้เห็นสิ่งแปลกๆ หรือน่าสงสัย สำหรับ Gen Z คำนี้มักเป็นสำนวนเล่นๆ มากกว่าจะเป็นการกล่าวหา อย่างไรก็ตาม อาจมีความกังวลเกิดขึ้นได้ เนื่องจากความหมายของคำว่า sus อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริบท

การที่ผู้ปกครองคอยติดตามข่าวสารและความอยากรู้อยากเห็นอยู่เสมอ จะช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างวัย เสริมสร้างการสื่อสาร และมีบทบาทเชิงรุกในชีวิตดิจิทัลของลูกๆ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้เด็กๆ รู้สึกปลอดภัยในการแสดงออก ถือเป็นเกราะป้องกันทั้งใน ออนไลน์ และออฟไลน์

โซอี้ คาร์เตอร์
โซอี้ คาร์เตอร์ หัวหน้านักเขียนที่ FlashGet Kids
โซอี้ ครอบคลุมหัวข้อเกี่ยวกับเทคโนโลยีและการเลี้ยงดูบุตรยุคใหม่ โดยเน้นที่ผลกระทบและการประยุกต์ใช้เครื่องมือดิจิทัลสำหรับครอบครัว เธอได้รายงานข่าวอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับความปลอดภัย ออนไลน์ แนวโน้มดิจิทัล และการเลี้ยงดูบุตร รวมถึงผลงานของเธอใน FlashGet Kids ด้วยประสบการณ์หลายปี โซอี้ได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเชิงปฏิบัติเพื่อ ช่วยเหลือ ผู้ปกครองสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดในโลกดิจิทัลปัจจุบัน

ทิ้งการตอบกลับ

สารบัญ

ดาวน์โหลดฟรีเพื่อสัมผัสประสบการณ์ฟีเจอร์ทั้งหมดสำหรับการปกป้องเด็ก
ดาวน์โหลดฟรี
ดาวน์โหลดฟรีเพื่อสัมผัสประสบการณ์ฟีเจอร์ทั้งหมดสำหรับการปกป้องเด็ก